วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แง่คิดสะกิดธรรมข่าวไทยรัฐ 17 ก.พ 53

ขอบคุณที่มาจากหนังสือพิมพ์และเว็ปไทยรัฐ 17 ก.พ. 53 ค่ะ

เปิดแผนลับ 37 หน้า 'ตู่' อ้างอีกใช้ทหาร 2 จว.ปราบ!

ปชป.ดาหน้าโต้ "จตุพร-ณัฐวุฒิ" จับแพะชนแกะแผนล้อมปราบเสื้อแดง "นายกฯอภิสิทธิ์" ฉุน "จตุพร" ขู่ทำร้ายพ่อ 2 แกนนำนปช.ไม่หยุดเดินหน้าสอบทรัพย์สิน "ป๋าเปรม" และกลุ่ม 11"บิ๊กจิ๋ว" ย้ำกลางที่ประชุม ส.ส.สถานการณ์น่าเป็นห่วง อาจเกิดเหตุรุนแรง พูดเป็นนัยมีเบื้องหลังแฝงอะไรบางอย่าง "เฉลิม" งอน "ทักษิณ" เตรียมถอนตัวเป็นขุนพลศึกซักฟอก เพราะไม่มีชื่อเป็นนายกฯ "สุรพงษ์" สวน "ปลอดประสพ" ไม่เคยหารือเรื่องยื่นซักฟอกรัฐบาลปลายเดือน ก.พ.นี้ ต้องรอการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงจบก่อน เพื่อให้ "อภิสิทธิ์" ยุบสภา

- ตู่ สมชื่อใช่ไหม ยังไงๆก็อย่ากลายเป็น ตุ๊ด สมชื่อให้หนักไปกว่าเก่าเลย

ตั้งแล้วคตม. กุมอํานาจพิเศษ

นายกฯอภิสิทธิ์เรียกหน่วยความมั่นคงถกเครียด ก่อนลงนามคำสั่งตั้ง คตม.จับตาสถานการณ์ความวุ่นวายของกลุ่มเสื้อแดง เหล่าทัพนัดหารือเตรียมพร้อมสนธิกำลังทหารตำรวจคุมเข้มสถานที่สำคัญ "ปทีป" หวั่นมือที่สามโผล่ป่วนเมือง ส่ง รอง ผบ.ตร.เกาะติดชิดพื้นที่ กองปราบตรึงจุดล่อแหลม 8 แห่งกลางกรุง ติงชาวบ้านอย่าตื่นตระหนกกับข่าวเกินไป คณะทำงานรวบรวมหลักฐานยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของอดีตนายกฯทักษิณ เชื่อเหตุวางบึมจงใจข่มขวัญองค์คณะผู้พิพากษา

- คนทั่วไปรู้สึกไม่มั้นใจเมื่อเห็นชื่อเทือก เพราะผลงานยังไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา

ยกเลิกซื้อจีที 200 ผลพิสจน์-ไม่ผ่าน

นายกฯแถลงผลตรวจสอบ "จีที 200" ไม่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพ หลังชี้เป้าถูกเพียง 4 ครั้ง จาก 20 ครั้งระบุไม่แตกต่างจากการสุ่มเอา แจ้งผลให้ ผบ.ทบ.ทราบแล้ว พร้อมสั่งยกเลิกการจัดซื้อ แต่ยังไม่ยกเลิกการใช้งาน เปรียบเจ็บใช้สุนัขยังได้ผลดีกว่า โบ้ยไม่รู้ใครจะรับผิดชอบเพราะซื้อมาตั้งแต่ปี 47 อ้างมีถึง 40 กว่าแห่งทั่วโลกโดนหลอกด้วย แต่ไทยเสียค่าโง่ไปแค่ 700-800 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ "มท.1" ท้าให้กระทรวงวิทย์พิสูจน์ประสิทธิภาพเครื่องอัลฟ่า 6 ชี้ไม่เหมือนจีที 200 แน่ ด้าน "หมอพรทิพย์" ย้ำหนักแน่น สถาบันนิติฯจะใช้เครื่องมือลวงโลกต่อไป ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐเผยฝ่ายทหารข้องใจจะขอทดสอบอีกรอบ ติงรัฐบาลต้องเรียกเงินคืนจากบริษัทผู้ผลิต เพราะเป็นภาษีของประชาชน

- เทคโนโลยีทำให้คนตกงานไม่พอ หมากยังตกงานเลย! ผลพิสูจน์นี้คงช่วยให้หมามีชีวิตที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม

กาแฟเร่ไอเดียเก๋แขวนพระ 600 องค์
พ่อค้ารถเร่กาแฟโบราณ คลั่งพระเครื่อง นำมาแขวน ไว้รอบรถกาแฟกว่า 600 องค์ ให้ลูกค้าซดไปส่องพระไปใครขอเช่าก็ไม่ให้เพราะเป็นของรักของหวง แถมมีกล้องส่องพระไว้บริการบรรดานักเลงพระ เผยทำเพราะใจรักไม่สนเป็นพระเก๊พระแท้ แต่ศรัทธาทุกองค์ เพราะช่วยให้ ค้าขายดี ชีวิตไม่ลำเค็ญ

- ก็ดีกว่ามีภาพโป๊โชว์หรือมีแบบสาวเชียร์เบียร์

ควัก 'ลูกตา' เหยื่อป้าเช็ง

เหยื่อร้องเรียนถึง 10 ราย ตำรวจพร้อมแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนดำเนิน คดีกับป้าเช็งได้ทันที ขณะที่หนุ่มวิน จยย.เหยื่อยาป้าเช็งยอมรับยังทำใจรับสภาพไม่ได้ที่ต้องตกอยู่ในโลกมืด เตือนประชาชนคนอื่นอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาขายยาเกินจริงแพทย์ รพ.ราชวิถี เตรียมผ่าตัดควักลูกตาเหยื่อยาหยอดตาเจียระไนเพชรสูตรป้าเช็ง เผยนัยน์ตาเป็นหนอง แก้วตาทะลุ สุดเยียวยาตาบอดถาวร ด้าน รมว.สาธารณสุข ชี้หากมี

- จะทำดียังไงก็อย่าได้โฆษณาเกินจริงจะทำให้ทุกสิ่งพินาศ เข้าทำนองชั่ว ที ทำให้ดี ๑๐๐ หนป่น

โผใหม่ภ.2 เด็กอัศวินเหมา คุมพัทยา

ด็ก "อัศวิน ขวัญเมือง" ผงาดโผแต่งตั้งตำรวจภาค 2 เหมายกโรงพักเกรดเอบวก "สภ. เมืองพัทยา" รื้อกระจายโผ "เกรียงศักดิ์ สุริโย" เด็กในสังกัดถูกย้ายไปอยู่ในพื้นที่ไม่สำคัญ ลูกน้องในคาถา "จงรัก จุฑานนท์" ก็โดนด้วย หลังพยายามต้านมานาน ข้อหาเก่าปล่อยม็อบยึดโรงแรมจนประชุมอาเซียนล่ม แฉผู้กำกับฉาว "ธีระเดช ภาณุรัตน์" สภ.ราชาเทวะ ที่สั่งไม่ฟ้องนักท่องเที่ยวต่างชาติ รอบนี้มาเหนือเมฆ เปลี่ยนทั้งชื่อนามสกุลเป็น "ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์" ได้ดีไปเป็นผู้กำกับสืบสวนคุมจังหวัดชลบุรี กรรมาธิการตำรวจลุยสอบข้อเท็จจริงแต่งตั้งโยกย้ายใน บช.ภ.1 ไม่พบกลิ่นเงินซื้อเก้าอี้ มีแค่ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้ามอาวุโสที่เยียวยาออกคำสั่งใหม่แล้ว ด้านโฆษกเพื่อไทยรุดให้ข้อมูล ป.ป.ช.จี้ถอดถอน "สุเทพ" ยันมีหลักฐานซื้อขายตำแหน่งวงเงินนับล้าน ผ่าน ส.ส.ชื่อ "ว" และ "บ" ไปให้นักการเมือง "ส" ทำวงการสีกากีเสื่อม

- ถ้าไม่ดีจริงให้รีบเปลี่ยน มิฉะนั้นถูกโจมตีให้เสียแน่

ผู้โดยสารเฮรถเมล์ธรรมะ คนขับห้อยบทสวดให้อ่าน

โชเฟอร์รถปรับอากาศ ขสมก. หัวใจใฝ่ธรรม นำหนังสือธรรมะมาแขวนไว้ที่เบาะให้ผู้โดยสารได้ อ่านฆ่าเวลาขณะรถติด เผยตั้งใจทำเพื่อเป็นกุศลถวายในหลวง เพราะเก็บหนังสือเอาไว้ที่บ้านก็ไม่มีประโยชน์ ผู้โดยสารชื่นชมเป็นความคิดที่ดี บางรายอ่านแล้วติดใจขอนำกลับไปด้วย

- เย็นกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเยอะ

ออกหมายจับอีก 2 มือปืนเทคโนดุสิต ไล่ฆ่าเทคโนปทุม

ออกหมายจับ 2 นักศึกษาเทค-โนฯดุสิตปืนโหดซิ่ง จยย.ไล่ยิงนักศึกษาเทคโนฯปทุมธานีตายคาถนน หลังกลุ่มเพื่อนร่วมสถาบันที่ถูกจับคดีฆ่ารายแรกให้การซัดทอด ชุดสืบสวนบุกตามล่าถึงบ้าน แต่ไหวตัวทันเผ่นหนีไปได้หวุดหวิด เผยผลชันสูตรศพนักศึกษาเหยื่อกระสุนทั้ง 2 รายน่าจะถูกยิงด้วยปืนกระบอกเดียวกัน ตำรวจคุมตัว 2 ใน 3 นักศึกษาโหดที่ถูกจับได้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยืนยันหลังก่อเหตุเอาปืนให้เพื่อนไปยิงล้างแค้นอีก ขณะที่ตำรวจจับมือเทศบาลและเทศกิจคุมเข้มจุดอันตราย ป้องกันศึกละเลงเลือดล้างแค้นไม่จบสิ้น ด้าน รมว.ศึกษาธิการ บี้ตำรวจดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดเพราะก่อเหตุซ้ำซาก สั่งทำวิจัยเจาะลึกชนวนแค้น 2 สถาบัน พร้อมขึ้นบัญชีกลุ่มเสี่ยงโรงเรียนยกพวกตีกัน

- จะป้องกันรายต่อไปได้อย่างไร

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ภาพบรรยากาศ เมื่อนายบอน บุกไปพบท่าน

เยี่ยมท่าน showshow แห่ง mblog เสียที หลังจากที่อ่านบันทึกของพี่ท่านใน mblog มาหลายเพลาแล้ว เลยเข้าไปเขียน commnent ฝากไว้ว่าจะหาโอกาสเข้าไปพบในวันหยุดนี้ โดยนายบอนเขียนก่อนออกเดินทางเมื่อช่วงสายๆ 19 มิ.ย.51



พอไปเขียนข้อความทิ้งไว้แล้ว ที่จริงไม่มีโอกาสได้อ่านที่ท่านพี่ showshow ตอบหรอกครับ แต่ไหว้วานให้คุณชบา ช่วยเปิดดูให้แทนแล้วอ่านข้อความที่ท่านพี่ showshow ตอบให้ฟังมาทางโทรศัพท์ สรุปว่า ท่านพี่ showshow บอกว่า ยินดีต้อนรับ ถ้ามาที่บ้านพระอาทิตย์ ให้บอกยามที่ประตู ให้พาไปพบผม บอกชื่อเล่นผมนะครับ เพราะยามที่ประตูจะรู้จักมักคุ้นมากกว่าชื่อจริงของผม...


พอได้ทราบความแล้ว นายบอนชักไม่แน่ใจว่า ท่าน showshow น่ะ ชื่อเล่นว่าอะไรกันแน่ อู อู่ อู้ อู๊ อู๋ บู๋ ฯลฯ เลยรีบโทรสายตรงถึงพี่ฮอลล์ pijika พี่ฮอลล์เลยสะกดให้ฟังแบบชัดถ้อยชัดคำ อ อ่าง สระ อู และเติมไม้จัตวาเข้าไป อ่านว่า อู๋


ช่วงสายวันที่ 20 มิ.ย. นายบอนรีบเดินทางไปที่บ้านพระอาทิตย์ทันที เพราะน่าจะเป็นช่วงเวลาที่จะได้พบท่าน showshow มากกว่าช่วงอื่นๆ บ่ายๆ ท่าน showshow อาจจะไปฝ่าด่านตำรวจไปหน้าทำเนียบก็ย่อมได้


แวะเข้าไปบ้านพระอาทิตย์ตอน 4 โมงเช้ากว่าๆ ถามพี่ยามที่ประตู ก็ชี้ให้เดินตรงไปเลี้ยวซ้าย มาเจอเลขาที่โต๊ะหน้าประตู ถามไถ่ว่า นัด บก.อู๋ไว้รึเปล่าคะ ว่าแล้วก็โทรขึ้นไปถาม และบอกให้รอสักพัก ส่วนคุณเลขา ก็ตัดผ้าโพกหัวสีเหลือง ที่รอไปสกรีนคำว่า "กู้ชาติ 2551" ลงไป


รอๆๆ จนเกือบ 5 โมงเช้า เพราะพี่อู๋กำลังยุ่งๆ กำลังว่าจะฝากบอกเลขาว่าจะมาพบทีหลังละกัน แต่คุณเลขาบอกว่า พี่อู๋กำลังเดินลงมาค่ะ อึกอึดใจก็ได้ยินเสียงมาก่อนตัว.. เกรงใจเหมือนกันแฮะมาตอนที่พี่ท่านกำลังไม่ค่อยจะว่าง แต่พอโผล่หน้ามาก็ถือหนังสือเล่มหนึ่งลงมาด้วย "ASTV ขบถสื่อโทรทัศน์ไทย" ผลงานการรวบรวม เรียบเรียงของท่าน บก,สุวิชชานี่เอง


[photo]

พอเจอตัวจริง ยกมือไหว้สวัสดีทักทายแล้ว ท่านshowshow ก็เชื้อเชิญมาบอกว่าจะพาชมสวน พาไปนั่งในมุมโต๊ะในสวนสวย แล้วก็หยิบ พระเครื่อง รุ่น "ช่วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทับทวี เสวยสุข ในตลอดกาลทุกเมื่อได้จริง" ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐


โห..อึ้งครับ ไม่นึกว่าจะได้รับพระ surprise จริงๆ


ว่าแล้วท่าน showshow ก็หยิบหนังสือมาเซ็นต์ให้ 3 ลายเซ็นต์ พร้อมพูดคุยทักทายไปด้วย


[photo]


เมื่อมีโอกาสได้พบตัวจริงเสียงจริงอย่างนี้ ไม่รอช้า รีบประกบถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกทันที พร้อมชูพระเครื่องที่ได้รับมาสดร้อนๆด้วย ท่าน showshow ก็บอกว่า ดีครับ ดีดี คงอยากมีรูปที่ดูดีใน blog ของนายบอนมั่งล่ะมั้ง....

[photo]


ว่าแล้วก็เซ็นต์ชื่อให้ 3 ชื่อ 3 แบบ ทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น และชื่อใน mblog แหม เซ็นต์ให้คุ้มค่าเลยนะครับ


[photo]


แค่นี้ นายบอนก็ดีใจจนพูดไม่ค่อยจะออกแล้ว ดีที่คุณนิดที่ติดตามไปด้วย ช่วยซักช่วยถาม เพราะเธอก็ชอบติดตามอ่าน blog showshow เช่นกัน หลังจากเจอตัวจริงเสียงจริงของท่าน showshow แล้ว เธอบอกว่า ชอบที่เห็นหนวดเครา ดูแล้วเท่ดี... คุณนิดชอบผู้ชายสไตล์นี้.. แต่เสียดายที่ท่าน showshow มีครอบครัวเสียแล้ว


แม้จะมีโอกาสได้พบปะพูดคุยในช่วงเวลาไม่กี่นาที แต่ก็สัมผัสถึงตัวตนได้เป็นอย่างดี ท่าน showshow ชี้ให้ดูตำแหน่งของห้องทำงานชั้นบน ที่มีสายระโยงระยางลงมาที่ชั้นล่าง เล่าประวัติคร่าวๆของบ้านพระอาทิตย์ ห้องทำงานคุณสนธิ การก่อสร้างเพิ่มเติมของบ้านพระอาทิตย์ พูดถึงพี่ฮอลล์ pijika เรื่อยมาจาถึงหนังสือเล่มที่ท่านกำลังเซ็นต์ชื่อให้ พอคุยได้จนอิ่มแล้ว ก็ต้องขอตัวไปทำภารกิจอื่นๆต่อไป


ก่อนร่ำลา ท่าน showshow เอ่ยคำร่ำลาด้วยมิตรไมตรีว่า "ว่างๆแวะมาเยี่ยมได้อีกนะครับ"


แหม ....ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ว่างนะ นึกว่าท่านพี่ showshow จะเลี้ยงน้ำชา กาแฟสักแก้ว.... แหม อดเลยเนี่ย


วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

รวบน.ศ.มหา"ลัยดังฉกวัตถุโบราณพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ขายซื้อทองแฟน-ตัวเอง ถูกแกะรอยไม่รอด

รวบน.ศ.มหา"ลัยดังฉกวัตถุโบราณพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ขายซื้อทองแฟน-ตัวเอง ถูกแกะรอยไม่รอด

จับได้แล้วมือโจรกรรมวัตถุโบราณพิพิธภัณฑสถานขอนแก่น เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น เอาไปขายเซียนพระนำเงินซื้อสร้อยทองให้แฟนและตัวเอง โดนตร.แกะรอยรวมตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/2009 ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กำลังศึกษาอยู่คณะศึกษาศาสตร์ เอกศิลปะ ปี 3 มหาวิทยาลัยดังในจังหวัดเกิดเหตุ พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่องกรุนาดูน และเทวรูปโบราณ จำนวน 71 รายการ และนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี ที่อยู่ 125/1 ม.3 ต.พระธาตุ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ได้พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่องกรุนาดูน จำนวน 20 รายการ โดยมี พระครูโสภณ เจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยพุทศาสนิกชน ประมาณ 20 คน และ นางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เข้าร่วมตรวจสอบของกลาง

สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้าไปโจรกรรมโบราณวัตถุ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า คนร้ายเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์ในช่วงเวลา 16.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค. โดยหลบซ่อนตัวอยู่ที่ฉากกั้นบริเวณชั้นที่ 1 ก่อนจะลงมือในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการทำลายกุญแจตู้จำนวน 6 ใบ ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารพิพิธภัณฑ์ กวาดเอาโบราณวัตถุไปจำนวน 91 รายการ จากนั้นใช้เลื่อยตัดกัญแจที่ประตูทางเข้าออกแล้วหลบหนีไป แต่กล้องวงจรปิดของพิพิธภัณฑ์ สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ เป็นชายวัยรุ่น อายุ 20-25 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผมสั้น สะพายกระเป๋าเป้สีดำ ซึ่งภาพดังกล่าวได้ปรากฏตามสื่อมวลชนไปทั่วประเทศ

จากภาพดังกล่าว ประชาชนได้แจ้งเบาะแสมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 2 คน คือ นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษา ที่ชื่นชอบโบราณวัตถุ และเป็นคนเข้าไปในอาคารพิพิธภัณฑ์ ลงมือโจรกรรมเอาโบราณวัตถุไปทั้งหมด 91 ราย จากนั้นนำไปขายให้กับ นายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี จำนวน 20 รายการ เป็นเงินประมาณ 150,000 บาท


โดยก่อนหน้านี้ มีพลเมืองดีแจ้งข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบเห็นชายวัยรุ่น ซึ่งเป็นนักศึกษาพักอยู่ที่หอพัก บ้านคุณป้า ห้องหมายเลข 10 ซึ่งอยู่ในซอยร้าน ซี.เอส.เค ใกล้กับตลาดเจ้พร ไปซื้อสร้อยคอทองคำให้ตัวเองกับแฟนสาวที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และชายคนดังกล่าวก็ห้อยพระเครื่องกรุนาดูน ที่คอ ลักษณะตรงกับพระที่หายไป ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านทองก็จับภาพของชายคนดังกล่าวไว้ได้ ในขณะเดียวกันร้านทองก็ได้จดชื่อ ที่อยู่เอาไว้ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบปรากฏว่า ภาพชายคนดังกล่าว ตรงกับภาพของผู้ต้องสงสัย ในกล้องวงจรปิดของพิพิธภัณฑ์ จึงได้เข้าตรวจที่ห้องพักภายในหอพัก พบพระเครื่องกรุนาดูน และเทวรูปโบราณ จำนวน 71 รายการ ซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษ

จากการสอบสวนทราบว่า นายมงคลเดช ชื่นชอบโบราณวัตถุ จึงเข้าเรียนที่คณะศึกษาศาสตร์ เอกศิลปะ และได้ตระเวนไปดูสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมทั้งที่พระธาตุนาดูนและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น และได้รู้จักกับนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี เป็นชาวนาดูน และเป็นลูกชายของนายทองดี ปะวะภูตา เจ้าของที่ดินที่มีการขุดพบพระกรุนาดูน จนมีความสนิทสนมกัน แต่การลงมือโจรกรรมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ นายมงคลเดช บอกว่า ลงมือทำเพียงคนเดียว เพราะเคยเข้าไปเที่ยวชมมาแล้วหลายครั้ง จนรู้ว่าต้องเข้าออกที่ประตูด้านไหน จึงได้นำเลื่อยตัดเหล็ก ไขควง ไฟฉายขนาดเล็ก ใส่ในกระเป๋าสะพายสีดำ แอบเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค. กระทั่งประชาชนที่เข้าชมภายใน ทยอยออกกันหมด จึงได้ไปซ่อนตัวด้านหลังฉาก ตกกลางคืน จึงลงมือโจรกรรมโบราณวัตถุ และหลบหนีออกมาในช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 5 ธ.ค.


เมื่อหลบหนีออกมาได้ ก็กลับไปที่ห้องพัก ช่วงระหว่างวันที่ 6-10 ธ.ค. ได้ติดต่อให้นายประดิษฐ์ มาดูสิ่งของ และซื้อพระกรุนาดูไปทั้งหมด 20 รายการ ราคาประมาณ 150,000 บาท เมื่อได้เงินมาก็พาแฟนสาวไปซื้อทองมาใส่ จนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว


ด้าน น.ส.อัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยติดตามสมบัติของชาติกลับคืนมา และบอกว่าถึงแม้บางรายการ ที่ได้กลับมา จะแตกหัก ก็จะเก็บรักษาให้ดี


ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่คุมตัวนายมงคลเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือเป็นวัตถุทางศาสนาที่เก็บไว้เป็นสมบัติของชาติในพิพิธภันฑสถานแห่งชาติในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ส่วนรางวัลนำจับจำนวน 200,000 บาท อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าควรจะมอบให้ใคร ระหว่างพลเมืองดีที่ให้เบาะแส และเจ้าของร้านทอง


วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

โจรขโมยพระเครื่องสะเดาะกุญแจมือหนีจากสน. ตร.ตามรวบทันควัน

นายมานุวัฒน์ รัตนเสถียร อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาโจรกรรมพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ หลังสะเดาะกุญแจมือวิ่งหลบหนีออกจากห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่


ทั้งนี้ นายมานุวัฒน์ รับสารภาพว่า ระหว่างตำรวจเผลอได้แอบสะเดาะกุญแจมือที่ล็อกติดไว้กับเก้าอี้ วิ่งหลบหนีจากสถานีตำรวจเข้าป่าละเมาะ บริเวณค่ายตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ตำรวจใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถติดตามจับกุมตัวได้


จากการสอบสวนยังทราบว่า นายมานุวัฒน์ เคยก่อเหตุโจรกรรมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังตามบ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง